ประวัติแนวเพลง
เชื่อว่าหลายๆคนที่มาอ่านในบลอกนี้ย่อมต้องฟังเพลงเป็นแน่
ถ้ามีคนมาบอกว่า ชีวิตเค้าไม่เคยฟังเพลงมาก่อน ผมเกือบ(?)เชื่อแน่นอน
คงจะพูดได้ว่า เพลง เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
บางคนก็ชอบเพลงเบาๆ….
บางคนก็ชอบเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง…..
บางคนก็ชอบเพลงหนักๆรุนแรง….
แต่ละสไตล์ของเพลงจึงถูกแตกแขนงออกไปเพื่อรองรับสไตล์ของผู้ฟังแต่ละคน……
แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆแล้ว ก็จะมีหลักๆคือ
1. POP – แนวเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง สดใส มันจะรู้สึก ป๊อบๆ อยู่ข้างใน ซึ่งจะไม่ค่อยจำกัดเครื่องดนตรีที่ใช้ซักเท่าไหร่นัก
2.JAZZ – แนวนี้ก็จะร่าเริงเหมือนกัน แต่ไม่ได้ร่าเริงเหมือน POP , Jazz จะค่อนไปทางร่าเริงแบบหรูหรา เครื่องดนตรีที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องลม(แซ๊กโซโฟน เป็นต้น) อาจจะมีเครื่องดนตรีแบบอื่น มาเสริมก็ได้
ข้อเปรียบเทียบระหว่างร่าเริงแบบ POP กับ JAZZ คือ Pop นั้นจะร่าเริงในอิมเมจกระโดดโลดเต้น รอยยิ้มสดใส แต่ Jazz จะมีอิมเมจเป็นร่าเริงแบบ สุขุมนุ่มลึก รอยยิ้มที่ยิ้มแบบเล็กๆมีความสุข
3.TECHNO – แนวนี้มักจะค่อนข้างได้ยินตามเทคทั้งหลาย Techno จะเป้นแนวเพลงที่ฟังแล้ว จะรู้สึกอยากลุกขึ้นไปเต้นไปดิ้น ด้วยจังหวะที่หนักแน่นของเสียงทุ้มดังๆ เครื่องดนตรีที่ใช้มักจะเป็น Sound Effect เสียส่วนใหญ่
4.HIP-HOP – Hip-Hop เองก็เน้นด้วยการทำให้คนรู้สึกอยากลุกขึ้นมาเต้นเหมือนกัน แต่จะไม่เท่า Techno เพราะ Hip-Hop ฟังแล้วเข้าถึงอารมณ์จริงๆ ก็จะแค่ขยับแขนขาตามจังหวะนิดหน่อยเท่านั้น Hip-Hop มักจะใช้ Sound Effect เป็นเครื่องดนตรี แต่สิ่งที่ Hip-Hop เน้นจริงๆคือ น้ำเสียงและการร้องของตัวนักร้องเอง ที่จะร้องเป็นจังหวะ และใช้คำที่สัมผัสกันเป็นเนื้อ
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง TECHNO กับ HIP-HOP คือ Techno จะค่อนข้างหนักกว่า Hip-Hop และไปเน้น คนร้องเท่า Hip-Hop
5.SOUL / R&B – Soul / R&B (Rythm & Blues) คือแนวเพลงที่เน้นที่เนื้อร้องแนว ความรักซึ้งๆ กับการเล่นกับจังหวะที่พอดีกัน ดนตรีจะค่อนข้างไปทางสดใสหน่อย แต่ยังไม่สดใสเท่ากับ Pop ส่วนด้านเครื่องดนตรีก็จะไม่ค่อยจำกัดแนว แต่มักจะใช้ Sound Effect ประกอบนิดหน่อย
6.Ballad – เป็นอีกแนวที่เล่นที่น้ำเสียงของคนร้องกับเนื้อที่จะออกแนวรักซึ้งๆ ซึ่ง่ค่อนข้างจะซึ้งกว่า Soul/R&B ดนตรี จะใช้จังหวะที่ช้ามาก ค่อยๆเป้นค่อยๆไป (อาจจะมีเร็วบ้าง แต่ไม่เร็วมาก ซึ่ง Ballad แบบเร็วนั้นจะค่อนข้างหายากนิดนึง) อิมเมจของ Ballad คือ ผู้หญิงวัยแรกเริ่มมีความรัก เครื่องดนตรี ก็ไม่จำกัดแนวเช่นกัน และมี Sound Effect ประกอบบ้าง
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง Soul/R&B กับ Ballad คือ S/R&B จะเร็วกว่าและมีอิมเมจที่เน้นด้านความรัก ส่วน Ballad จะช้ากว่ามาก อิมเมจก็จะเป้นเด็กผู้หญิงที่มีความรักครั้งแรก
7.ROCK – แนวนี้เป็นแนวที่แพร่หลายออกไปค่อนข้างมาก และยังมีการแตกแขนงออกเป็น Sub Culture ต่างๆ มากกว่าแนวเพลงอื่นๆ Rock จะเป็นแนวเพลงที่ฟังแล้วเร้าใจ ตื่นเต้น เท่ ร้อนแรง มีลักษณะที่เหมือนจะขยับไปขยับมาตลอดเวลา Rock ไม่จำเป็นจะต้องใช้จังหวะที่หนักหน่วงหรือเร็วๆ แต่แค่ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือเร้าใจก็เพียงพอแล้ว อย่างที่พวกฝรั่งเวลาทำอะไรที่ตื่นเต้นเค้าก็จะตะโกนว่า “It’s Rock me!!!” (สังเกตได้จากสมัยก่อน พวกวง Queen หรือ Deep Purple ถึงแม้เค้าจะไม่ได้เล่นดนตรีที่หนักหน่วง หนำซ้ำ บางเพลงออกจะช้าด้วยซ้ำ แต่ทั้งพวกเค้าและผุ้ฟังก็บอกว่ามัน Rock)
8.FUNK – เป็นแนวเพลงอีกแนวนึง ที่ฟังแล้วรู้สึกเร้าใจ ตื่นเต้น แต่จุดที่ต่างจาก Rock อย่างเห็นได้ชัดคือ Funk จะออกแนวตื่นเต้นเร้าใจแบบ นิ่งๆ สุขุม ถ้าเป็นอิมเมจ ก็คงเป็นคนไส่ชุดดำ เท่ๆ นิ่งๆ เครื่องดนตรีของเพลงแนวนี้ ก็จะเน้นเครื่องดนตรีแนวหนักๆทั้งหลาย เช่น กีต้าร์ไฟฟ้า เบสไฟฟ้า กลองชุดใหญ่ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น