24 ม.ค. 2558

ประวัติความเป็นมา ของดนตรีแนวต่างๆ

ประวัติความเป็นมา ของดนตรีแนวต่างๆ




ดนตรีทุกแนวที่เราได้ฟัง หรือได้เล่นกันนั้น มีใครรู้บ้างครับว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากอะไร ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้คุณได้ 



วง ดนตรีแนว : บลูส์ (Blue)

เป็นดนตรืที่ถือกำเนินขึ้นกลางไร่ฝ้าย ณ ดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ จากความทุกข์ยากของคนงานผิวดำ ซึ่งถูกนำตัวมาจากแอฟริกา เพื่อมาเป็นทาสทำงานในไร่ฝ้ายท่ามกลางความกดดันต่างๆนานา ในเวลาค่ำคืน พวกเขาจับกลุ่มกันร้องเพลงโดยใช้กีตาร์โปร่งเก่าๆ และร้องเพลงออกมาอย่างกดดัน เสียงร้องแหลมสูงของพวกเขาแสดงถึงภาวะจิตใจของเขาในขณะนั้นได้ดี เป็นบทเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ความเจ็บปวดของชนผิวดำในยุคนั้นได้อย่างเที่ยงตรงที่สุด บทเพลงมักเกี่ยวกับเรื่องการเอารัดเอาเปรียบของเจ้าของไร่ การโหยหาบ้านเกิด การสรรเสริญพระเจ้า ความรักอันร้อนเร่า ฯลฯ เสียงดนตรีแนวบลูส์ถือเป็นมรดกที่ล้ำค่ายิ่งของชนผิวดำ
วง ดนตรีแนว : บับเบิ้มกัม (Bubble Gum)
เป็นดนตรีประเภทที่มีทำนองง่ายๆ สนุกสนานให้ความรู้สึกสดใสคล้ายกับการเคี้ยวหมากฝรั่ง โดยดนตรีประเภทนี้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นในช่วงปี 1968-1969 โดยมีต้นกำเนิดมาจาก 2 ทาง คือ เพลงที่เด็กๆ นิยมร้องหรือเพลงกล่อมเด็ก เพลงร็อคที่นำมาเรียบเรียงทำนองใหม่ให้สนุนสนานแบบเด็กๆ ดนตรีประเภทพนี้มักจะได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มเด็กๆและวัยรุ่น แต่นักฟังเพลงที่รุ่นใหญ่ขึ้นไป ก็ไม่ให้ความสนใจมากนัก เพราะคิดว่าเพลงประเภทนี้ขาดความเป็นศิลปะ เป็นที่นิยมและเสื่อมสลายไปอย่างรวดเร็ว คล้ายกับการเคี้ยวหมากฝรั่งที่เมื่อหมดรสชาติ ก็จะคายทิ้งไป

วง ดนตรีแนว : คลาสสิค (Classical)
เป็นดนตรืที่แต่งขึ้นอย่างมีระเบียบแบบแผนที่เคร่งครัด เป็นดนตรีที่แต่งโดยคีตกวีผู้มีความสามารถ และเล่นดนตรีได้เป็นอย่างดี เขียนโน้ตให้เครื่องดนตรีทุกชิ้นเล่นได้อย่างผสานกลมกลืน และบรรเลงร่วมกันออกมาอย่างไพเราะงดงาม คีตกว่จะเป็นคนเขียนโน้ตให้วงที่เรียกว่า ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า (Symphony Orchestra) บรรเลงออกมา ซึ่งแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นเครื่องสาย เช่น ไวโอลิน วิโอล่า เชลโล่ ดับเบิลเบส
2. ส่วนที่เป็นเครื่องลมไม้ เช่น ฟลุต คลาริเนท โอโบ บาสซูน
3. ส่วนที่เป็นเครื่องเป่าทองเหลือง เช่น ทรัมเปต ทรอมโบน ทูบา ฮอร์น แซ็กโซโฟน
4. ส่วนที่เป็นเครื่องให้จังหวะ เช่น กลองชุด กลองทิมปานี เครื่องประกอบจังหวะต่างๆ

วง ดนตรีแนว : คลาสสิค-ร็อค (Classical Rock)
เป็นดนตรีที่อาจเป็นได้ทั้ง อาร์ต-ร็อค (Art Rock) ซึ่งหมายความว่า ดนตรีร็อคที่มีการเขียนเนื้อร้องอย่างประณีตจนถือเป็นศิลปะโดยผสมจังหวะหนักหน่วงของร็อคเข้ากับแบบแผนหรือลักษณะทางดนตรีประเภทคลาสสิก ซึ่งอาจนำแนวประสานของดนตรีคลาสสิกมาทั้งหมด หรือแก้ไขให้มีเสียงแบบร็อค หรือ อาจประพันธ์ขึ้นมาใหม่เลย โดยยึดโครงสร้างหรือพื้นฐานทางคลาสสิกเลยก็ได้ โดยบางครั้งในการแสดงนักดนตรีร็อคอาจแสดงโดยมีวงออร์เคสตร้าเล่นในแนวคลาสสิกอยู่เบื้องหลัง แนวดนตรีแบบนี้จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “โพรเกรสซีฟ ร็อค (Progressive Rock)”



วง ดนตรีแนว : คันทรี (Country)
ถือเป็นรากฐานของดนตรีร็อกทางฝั่งอเมริกา ดนตรีคันทรีเป็นดนตรีพื้นบ้านของคนผิวขาวมีฐานะค่อนข้างยากจน ส่วนใหญ่เป็ฯชาวอังกฤษที่อพยพไปอยูทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา มักประกอบอาชีพเป็นชาวไร่ ชาวนา โดยที่ผู้เป็นบุคคลชั้นนี้เป็นผู้รักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านได้ดีกว่าชนชั้นสูงเช่นเดียวกับชาวไร่ ชาวนาของไทย ที่นิยมร้องเพลงลูกทุ่งมากกว่าเพลงลูกกรุงหรือเพลงฝรั่ง

วง ดนตรีแนว : อิเลคโทรพ๊อพ (Electro-Pop)
เป็นดนตรีในยุคทศวรรณที่ 80 ที่ลดจำนวนนักดนตรีและผู้เล่นดนตรีให้เหลือน้อยที่สุด แต่ใช้ซินธิไซเซอร์คอมพิวเตอร์มาป้อนข้อมูลทางดนตรี เพื่อให้เสียงดนตรีออกมาแทนนักดนตรี บางครั้งผู้เล่นเพียงคนเดียวแต่เสียงดนตรีเหมือนกับบรรเลงออกมาทั้งวงเลยทีเดียว เพลงประเทภนี้มักจะมีจังหวะที่เร้าใจ และเหมาะกับการเต้นรำ

วง ดนตรีแนว : โฟล์ค (Folk)
เป็นดนตรีที่เกิดจากเรื่องราวหรือคำพูดที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณ โดยยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าใครเป็นผู้ริเริมดนตรีประเภทนี้ขึ้น เพราะใช้การร้องเล่าเป็นมรดกสืบต่อกันมาจนไม่รู้ต้นตอ ทำให้เนื้อร้องหรือทำนองของเพลงบางเพลงเปลี่ยนไปจากต้นฉบับมากจนจำไม่ได้เลยก็มี เนื้อร้องและดนตรีของเพลงโฟล์คมักแสดงอารมณ์ของกลุ่มบุคคลเช่น เพลงสงคราม เพลงเด็ก เพลงเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือเทศกาลต่างๆ โดยมีเนื้อร้องหรือท่วงทำนองเรียบง่ายเพลงโฟล์คของแต่ละชาติก็ต่างกัน

วง ดนตรีแนว : เฮฟวี่ เมตัล (Heavy Metal)
เป็นดนตรีแห่งความรุนแรงจากการตีคอร์ดที่เปิดเสียงกันดังสนั่น เสียงร้องที่แหลมสูงและโหยหวน เสียงกลองและเบสที่ดังกระหึ่ม เสียงกีตาร์ที่หวีดหวิวเชือดเฉือนหัวใจเป็นที่นิยมของวัยรุ่นมาก ซึ่งพวกเขาจะใช้ดนตรีประเภทนี้เพื่อฟังให้หายเก็บกดจากเรื่องต่างๆ เช่น สังคม การเมือง การดำเนินชีวิตในกรอบของคน ดนตรีที่ดังสนั่นสามารถทำให้ผู้ฟังรู้สีกเหมือนได้ปลดปล่อยผ่อนคลายจากความกดดันได้เป็นอย่างดี

วง ดนตรีแนว : แจ๊ส (Jazz)
เป็นดนตรืที่มีจุดกำเนินอยู่ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเดิมเรียกกว่า “ดนตรีแบบแร็กไทม์ (Ragtime)” ที่เป็นที่นิยมในหมู่คนผิวดำ ต่อมาได้พัฒนาเป็นแบบ “Dixieland Style” จากนั้น ดนตรีแบบแร็กไทม์ จึงถูกเรียกว่า แจ๊สและมีการขยายตัวไปสู่ชนผิวขาวมากขึ้น

ดนตรีแจ๊สแตกแขนงออกไปมากมาย และมีชื่อเรียกต่างกันเช่น สวิง (Swing) บี บ๊อบ (Be-Bob) โมเดิร์นแจ๊ส (Modern Jazz) คูลแจ๊ส (Cool Jazz) ป๊อปแจ๊ส (Pop Jazz) ฟรีแจ๊ส (Free Jazz) ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ถือว่าเป็นหัวใจของดนตรีแจ๊ส คือ การเปิดโอกาสให้นักดนตรีแต่ละคนแสดงความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีของตนอย่างอิสระ (Improvise) ไม่มีแบบแผนกำหนดตายตัว ให้ทุกคนได้แสดงทักษะของตนอย่างเต็มที่โดยที่จะเล่นฉีกออกไปจากแนวทำนองหลักของเพลงอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อตอนจบแล้วทุกคนในวงจะสามารถเล่นให้จบพร้อมกัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น แต่ละคนอาจจะเล่นไปคนละทิศทาง หรือต่างคนต่างเล่นไปเลยก็ได้ นับว่าผู้เล่นดนตรีในแนวนี้ต้องมีความสามารถเฉพาะตัวสูงมาก

วง ดนตรีแนว : แจ๊ส-ร็อค (Jazz-Rock)
เป็นการนำเอาดนตรีแจ๊สและร็อคผสมเข้าด้วยกัน และมีการผสมเอาเครื่องเป่าเข้าไปในวงดนตรีแบบร็อคนักดนตรีในแนวนี้จะสามารถเล่นดนตรีได้ทั้งแนวแจ๊สและร็อค เช่น วง Blood Sweet & Teaars, วง Chicago (ในยุคแรก), Miles Davis ในอัลบั้มชุด Bitches Brew, John Mclaughlin ฯลฯ

วง ดนตรีแนว : นิวเอจ (New Age)
เป็นดนตรืที่ส่วนใหญ่บรรเลงโดยใช้เปียนโนหรือคีย์บอร์ด จะใช้ดนตรีบรรยายธรรมชาติ เช่น ภูเขา แม่น้ำ ทะเล ท้องฟ้า ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นเรื่องเดียวกัน มีรากฐานมาจากดนตรีคลาสสิกซึ่งใช้เสียงคีย์บอร์ดแทนเสียงของกลุ่มเครื่องงาน และเครื่องเป่าในเพลงคลาสสิค โดยสามารถบรรเลงโดยคนๆเดียวได้ ดนตรีประเภทนี้จะฟังแล้วสบาย รู้สึกผ่อนคลาย อาจไม่มีจังหวะหรือทำนองที่หนักแน่นชัดเจน

วง ดนตรีแนว : ไซเคดีลิค ร็อค (Psychedelic Rock)
เป็นดนตรีแนวนอกคอก ฉีกกฎเกณฑ์ของสังคม และมักเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (Hippy) สาเหตุมาจากส่วนใหญ่เพลงแนวนี้ ศิลปินที่แต่งเพลงมักจะใช้ยาเสพติดประเภทต่างๆ เช่น แอลเอสดี กัญชา เฮโรอีน ฯลฯ จนเมื่อสร้างจินตนาการจากการใช้ยาเสพติคได้ ก็จะสามารถแต่งเป็นเพลงออกมา ซึ่งเพลงส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองสังคม เรื่องเพศ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยจุดกำเนินแท้จริงอยู่แถบเมืองซานฟราสซิสโกของประเทศสหรัฐอเมริกา หนุ่มสาวในช่วงปี คศ. 1967 ชุมนุมกันต่อต้านการเข้าร่วมสงครมเวียดนามของประเทศสหรัฐฯจึงมีการใช้ยาเสพติดเพื่อแสดงออกถึงเสรีภาพในการดำเนินชีวิต เปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการแสวงหาให้กับชีวิตหนุ่มสาวช่วงนั้น ปล่อยชีวิตไปกับความงามของธรรมชาติ เสียงเพลงและยาเสพติด พวกเขาเบื่อหน่ายกับสภาพชีวิตในสังคม ในห้องเรียน ต้องการแต่ความรักและเสียงเพลง

วง ดนตรีแนว : พังค์ ร็อค (Punk Rock)
เป็นดนตรีที่พัฒนาขึ้นราวปี คศ 1970 ในประเทศอังกฤษ เพื่อต่อต้านสังคมชนชั้นกลางและชนชั้นสูง และความฟุ่มเฟือยของศิลปินซูปเปอร์สตาร์ บทเพลงแสดงออกด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดต่อความไม่เป็นธรรมและความเลวร้ายของสังคม การแสดงและการแต่งตัวของศิลปินเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด และแฝงความรุนแรงอยู่เสมอ โดยนักดนตรีอาจไม่มีความเก่งกาจมากมาย แต่จะเน้นการแสดงออกที่รุนแรงมากกว่า ดนตรีประเภทนี้ไม่ใช้ เครื่องดนตรีไฟฟ้า เช่น ซินธิไซเซอร์ หรือเครื่องเป่าเลย ดนตรีรูปแบบนี้คล้ายดนตรี ที่เรียกกว่า “นิวเวฟ” (New Wave) โดยนิวเวฟจะมีภาพพจน์ที่ดีขึ้น บทเพลงก็จะลดความหยาบกระด้างลง

วง ดนตรีแนว : แร็พ (Rap)
มีต้นกำเนิดจากวัยรุ่นผิวดำในแหล่งเสื่อมโทรมในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งมีหมู่วัยรุ่นที่ยากจนใช้ และขายยาเสพติคอย่างแพร่หลาย ดนตรีแร็พมีจุดเด่นที่จังหวะและเนื้อหา แต่ไม่เน้นเสียงประสานและทำนองที่ไพเราะ เสียงกลองจะทำขึ้นด้วยปากกับมือ บางครั้งก็ใช้เครื่องทำจังหวะที่มีเสียงไม่เหมือนกลองจริงๆ ภาษาที่ใช้ก็เป็นภาษาแสลงของคนผิวดำ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการระบายความอัดอั้นของวัยรุ่นในแหล่งเสื่อมโทรม ประท้วงสังคม แสดงความก้าวร้าว ต่อต้าน บางเพลงมีความหยายคายเพื่อให้สะใจผู้ฟัง เรียกอีกอย่างว่า ฮิปฮอป (Hip Hop)

วง ดนตรีแนว : เร็กเก้ (Reggae)
ในความคิดของชาวจาไมก้า ซึ่งถือว่าเป็นแม่แบบของดนตรีประเภทนี้ ชาวจาไมก้าถือว่า เร็กเก้เป็นดนตรีของพระเจ้า เป็นดนตรีประเภทที่ชาวจาไมก้านำดนตรีแบบ ริธึ่ม แอนด์ บลูส์ แบบอเมริกันมาเล่น แทนที่จะเล่นดนตรีแบบคาลิปโซ่ ส่วนดตรีแบบชาวแอฟริกันทั่วไป ถือว่า เร็กเก้ เป็นดนตรีที่มีจังหวะหนักหน่วง เกรี้ยวกราดแสดงอารมรณ์ของผู้ที่มีอาชีพเป็นชนชั้นกรรมาชีพได้อย่างดี

วง ดนตรีแนว : ร็อก แอนด์ โรล (Rock and Roll)
มีต้นกำเนิดมาจากนักจัดรายการวิทยุ ชื่อ อแลน ฟรีด Alan Freed ซึ่งมีความเห็นว่า วัยรุ่นผิวขาวในทศวรรณที่ 50สนใจดนตรีแบบรึธึ่ม แอนด์ บูลส์มาก แต่เนื่องด้วยว่าเป็นดนตรีของคนผิวดำ และตอนนั้นมีการเหยียดผิวอย่างมากเขาจึงเปิดเพลงรึธึ่ม แอนด์ บูลส์ แต่ตั้งชื่อรายการว่า “Moondog’s Rock & Roll Party” ซึ่งถือว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่ทำให้ ร็อคแอนด์โรล เป็นอมตะมาจนทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น